พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ พระมหา ดร.สมชาย ฐานวุฑฺโฒ
แพทยศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาโท และปริญญาเอกทางด้านพุทธศาสตร์ศึกษา (Buddhist Studies) มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ได้ให้ความรู้ในรายการข้อคิดรอบตัว ตอน เปลี่ยนให้ทันโลก
จากคำถาม “ปรับตัวอย่างไรในสังคมโลกยุคดิจิตอลที่ทุกอย่างเปลี่ยนเร็วมาก”

อะไรทำให้ nokia บริษัทมือถืออันดับ 1 ของโลกต้องแพ้ออกจากวงการ
อะไรคือสาเหตุให้ Kodak ผู้ค้นพบเทคโนโลยีกล้องดิจิตอลต้องล้มอย่างไม่เป็นท่า
big data สำคัญไฉน
alibaba จะเปลี่ยนโฉมธนาคาร สั่นสะเทือนวงการธนาคารโลกได้อย่างไร
และธุรกิจจะปรับตัวโดยใช้ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างไรบ้าง
ที่นี่มีคำตอบ
*บทความนี้มี 2 ตอน
ตามไม่ทันโลกยุคดิจิตอล ยักษ์ใหญ่ก็ไม่รอด
หลักสำคัญคือต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง มันพ้นยุคที่ว่า ทำอะไรสำเร็จแล้วก็นั่งกินบุญเก่า ทำธุรกิจแบบเดิมไป 30-50 ปี
ยุคสมัยอย่างนั้นน่ะมันผ่านไปแล้ว
ในสังคมโลกยุคดิจิตอล ทุกอย่างเปลี่ยนเร็วมาก
จนมีคนบอกว่า นับจากนี้ไป 20 ปี โลกจะเปลี่ยนไปมากกว่าที่เคยเปลี่ยนมา 200 ปี
200 ปีก่อนโลกยังเป็นสังคมเกษตรอยู่เลยนะ
แล้วจนมาถึงปัจจุบัน มีเครื่องบินมีคอมพิวเตอร์ มีอะไรต่างๆใช้เนี่ยเปลี่ยนไปมากเท่าไหร่ จากนี้ไป 20 ปีเปลี่ยนมากกว่านั้น
เรียกว่าจะเปลี่ยนจนตาลายเลยก็แล้วกัน
เพราะฉะนั้นเมื่อสิ่งแวดล้อมมันเปลี่ยนเร็วขนาดนั้น
ธุรกิจไหนเอื่อยๆเฉื่อยๆ
1 ช้า
2 ไม่ปรับตัว
รอดยาก
ต่อให้เป็นยักษ์ใหญ่ก็จะแค่ล้มดังเท่านั้นเอง
ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่แล้วจะรอด
ยักษ์ใหญ่ล้มดังมีตัวอย่างให้เห็นเยอะมาก เอาที่เราคุ้นๆก็แล้วกัน Nokia
Nokia ยักษ์ใหญ่ผู้ตามไม่ทันโลก
10 ปีที่แล้ว Nokia เป็นบริษัทมือถืออันดับ 1 ของโลก
เป็นแชมป์โลกครอง market Share เกินครึ่งหนึ่งของโลก
จนบางคนเขาเรียกประเทศฟินแลนด์ว่า Nokia land
เป็นธุรกิจใหญ่สุดของประเทศ แล้วก็เป็นสัดส่วนที่ใหญ่มากของ GDP ของประเทศเลย
ผ่านไป 5-6 ปี ล้มไปดื้อๆเลย
ไม่มีการผลิตมือถือ Nokia ออกมาแล้ว
Nokia ต้องกลายเป็นบริษัทลูกของ Microsoft เพราะไม่รอด
จากยักษ์ใหญ่แท้ๆอันดับ 1 ของโลกนะยังไม่รอดเลย
เพราะโนเกียตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลง
ในวันที่ต้องประกาศขายกิจการโอนให้กับ microsoft
ผู้บริหารโนเกียแถลงทั้งน้ำตาว่า
เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่เราอยู่ไม่ได้ เราต้องไปแล้วจากวงการนี้ จากที่เราเคยเป็นเบอร์หนึ่ง
ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราทำดีทุกอย่างแล้ว ไม่ได้ทุจริต เราขยัน เราทุ่มเท แต่เราต้องเป็นผู้แพ้แล้ว
จากที่เป็นเบอร์หนึ่งก็ต้องแพ้จากวงการไปเลย
เพราะไม่ทันการเปลี่ยนแปลง ไม่ปรับตัวคิดว่าที่ทำอยู่..ดีแล้ว
พอโลกมีการเปลี่ยนแปลง ก็ดูเขาเปลี่ยน แล้วก็เปลี่ยนมั่ง แต่มันไม่ทันเขา
ธุรกิจไหนตั้งหลักไม่ทัน ปรับตัวตามไปไม่ทัน ไปดื้อๆเลย
kodak กับวิสัยทัศน์ที่ไม่ทันโลก
เราคุ้นชื่อฟิล์มโกดักไหม แต่ก่อนมีทุกหัวระแหงเลย..ใช่ไหม
เมืองไทยก็มีร้านฟิล์มสีโกดัก และก็ต้องไปซื้อกล้อง kodak บ้าง ซื้อฟิล์ม kodak บ้าง ไปอัดภาพ
ถ่ายภาพเสร็จแล้วก็ไปอัด ล้างภาพถ่ายออกมาที่ร้านฟิล์มโกดัก
แต่โกดักตามการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน
ทั้งที่ตัวเองเป็นคนผลิตกล้องดิจิตอลได้คนแรกของโลก
และวิศวกรของ kodak เมื่อปี 1975 (พ.ศ. 2518) 43 ปีที่แล้ว ผลิตกล้องดิจิทอลได้สำเร็จเป็นเครื่องแรก
เอาไปรายงานเจ้านาย นึกว่าเจ้านายจะดีใจ
เจ้านายเขาว่าไงรู้ไม๊
น่ารักดีนะ แต่ว่าเงียบๆไว้อย่าไปบอกใครนะ
เพราะว่ารู้สึกว่าขายฟิล์มแล้วได้กำไรดี
ไม่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเมื่อมันสำเร็จขึ้นมา
แม้ไม่บอกใคร จะเร็วจะช้า เดี๋ยวคนอื่นเขาก็จะรู้ แล้วก็ต้องค้นพบ แล้วตัวเองจะไปกอดความสำเร็จเก่าๆอยู่ได้อย่างไร
ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ก็เป็นไดโนเสาร์เท่านั้นเอง
ไดโนเสาร์ตัวใหญ่ไหม แข็งแรงไหมแล้วเป็นไง สูญพันธุ์เพราะไม่เปลี่ยนแปลงไม่ปรับตัว
แต่สัตว์ตัวเล็กๆถ้าเกิดปรับตัว..รอด
คนไหนไม่ปรับตัวก็จะเป็นเหมือนไดโนเสาร์ สูญพันธุ์ ใหญ่เท่าไหร่ก็สูญพันธุ์เหมือน kodak เหมือน Nokia
kodak ยังคาดคิดว่า ถึงเขาใช้กล้องอะไรถ่ายก็ตาม ดิจิตอลไม่ดิจิตอล เดี๋ยวเขาก็ต้องมาล้างภาพที่ร้าน kodak
กำไรจากกระดาษเราได้เยอะ ค่าล้างอัดภาพยังได้เยอะอยู่
แต่ปรากฏว่าคาดการณ์ผิด
คนถ่ายรูปด้วยมือถือเสร็จปั๊บ ข้อมูลอยู่ในนั้นเขาก็ดูในนั้นเลย อยากจะดูเมื่อไหร่ก็เรียกขึ้นมาดู เขาไม่ล้างอัดภาพ
ผลคือ kodak เจ๊งเลย ล้มละลายเลย
ไม่เปลี่ยนแปลงหรือช้าเกินไป ไม่รอด
ถ้าเป็นยักษ์ใหญ่ก็เพียงแต่ว่าล้มดังหน่อยเหมือนไดโนเสาร์เท่านั้นเอง
โปรดติดตามตอนต่อไป
ที่มาภาพและเนื้อหา
รายการข้อคิดรอบตัวจากช่อง GBN (Global Buddhist Network)
ประวัติพระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑโฒ)
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่สอนให้พัฒนาตนเอง อย่างไม่หยุดยั้ง สาธุ ขอกราบนมัสการและขอกราบอนุโมทนาบุญ