EarthDay : วันคุ้มครองโลก รักษาใจชนะภัยโควิด๑๙

แชร์ให้เพื่อนเลย

ในสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด ๑๙ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน
ปัจจุบันมีผู้คนทั่วโลกติดเชื้อแล้วมากว่า ๒,๓๐๐,๐๐๐ คน เสียชีวิตแล้วกว่า ๑๖๐,๐๐๐ คน ในระยะเวลาเพียง ๓ เดือนเศษ
และไม่มีทีถ้าจะลดน้อยลง
บางคนตกงาน ธุรกิจปิดกิจการ ขาดรายได้ หุ้นตก ทรัพย์สินเงินทองหายไปจากการลงทุน เครียดวิตกกังวลกับความมั่นคงของชีวิต
บางคนจิตตก กลัวตัวเองหรือคนในครอบครัวจะติดเชื้อ จนไม่เป็นอันทำงาน
บางคนหวั่นเกรงต่อมรณะภัยที่เฉียดกรายเข้ามา
จนทำให้หลายๆคนเป็นโรคซึมเศร้า ขาดสติ หรืออยากฆ่าตัวตาย อย่างที่เห็นในข่าวบ่อยครั้ง
ในประเทศจีน คนไข้ขาดสติ คลั่งทำร้ายร่างกายแพทย์พยาบาล เธอบอกว่า “ถ้าฉันต้องตาย ทุกคนก็ต้องตายด้วย”

ขอยกเรื่องราวของ ๒ บุคคลตัวอย่างในยุคพุทธกาล
ท่านปฏิบัติตนอย่างไรเมื่อรู้ว่ามรณะภัยจะมาถึงในอีก ๗ วัน

พ่อค้าผ้า

เสื้อผ้า
ภาพประกอบ : ธุรกิจเสื้อผ้า

วันหนึ่ง พระบรมศาสดาทรงทอดพระเนตรเห็นพ่อค้าขายผ้า
กำลังบรรทุกผ้าเต็มเกวียน ๕๐๐ เล่ม เดินทางจากเมืองพาราณสีไปยังเมืองสาวัตถี เพื่อทำการค้าตามปกติ
พระบรมศาสดาตรัสต่อพระอานนท์ว่า
“พ่อค้าไม่รู้ว่า อันตรายถึงชีวิตจะเกิดขึ้นกับตน จึงคิดที่จะอยู่ที่นี่ตลอดปี เพื่อทำการค้าขาย”
“พ่อค้านี้จะมีชีวิตอยู่อีกเพียงเจ็ดวันเท่านั้น”
หลังจากพ่อค้าได้ทราบถึงพระดำรัส ก็ตกใจและสลดใจมาก แต่ก็มีสติ
จึงตั้งใจที่จะใช้เวลาที่เหลือน้อยนิดนี้สร้างความดีให้เต็มที่ เพราะชีวิตของตนเป็นดุจไม้ใกล้ฝั่ง
จากนั้น ก็ถวายสังฆทานมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธานตลอด ๗ วัน
ในวันที่ ๗ พระศาสดาได้ประทานโอวาทว่า
“อุบาสก ธรรมดาบัณฑิตไม่ควรประมาท อย่าคิดว่าเราจะอยู่ที่นี่ ประกอบการงานตลอดฤดูทั้ง ๓ ควรคิดถึงความตายบ้าง”
พอจบพระธรรมเทศนา พ่อค้าก็มีดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงกายธรรมพระโสดาบันทันที
หลังจากพระบรมศาสดาเสด็จกลับ
เขาก็เกิดปวดศีรษะขึ้นมาอย่างกะทันหัน จึงนอนพัก และสิ้นชีวิตลงในวันนั้นนั่นเอง
ด้วยอานิสงส์แห่งบุญที่ได้ตั้งใจทำในช่วงบั้นปลายชีวิตตลอด ๗ วัน ประกอบกับมีดวงตาเห็นธรรม จึงได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต

“อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ โก ชญฺญา มรณํ สุเว น หิ โน สงฺครนฺเตน มหาเสเนน มจฺจุนา”
ความเพียรควรทำในวันนี้ ใครเลยจะรู้ว่า ความตายจักมีในวันต่อไป เพราะการผัดเพี้ยนกับพญามัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่นั้นย่อมไม่มี
พุทธศาสนสุภาษิต

สามเณรติสสะ

สามเณร
ภาพประกอบ : สามเณรกำลังสวดมนต์ในโบสถ์

ในสมัยพุทธกาลมีสามเณรน้อยองค์หนึ่งชื่อ ติสสะ อายุ ๗ ปี
สามเณรท่านนี้ได้รับการพยากรณ์จากพระสารีบุตรว่าจะต้องมรณภาพ ภายใน ๗ วันให้ปลงอายุสังขารเสีย
พอสามเณรได้ฟังดังนั้น ท่านก็มิได้สะทกสะท้าน หรืออาลัยในชีวิตแต่อย่างใด
ไหนๆ ก็จะละสังขารแล้ว ก็ใคร่จะขออำลาพระอาจารย์ไปโปรดโยมบิดามารดาสัก ๓ วัน
ในระหว่างการเดินทางได้พบปลาน้อยใหญ่ในสระน้ำซึ่งกำลังแห้งเขิน
เมื่อสามเณรไปถึง ปลากำลังดิ้นทุรนทุรายเพราะน้ำไม่เพียงพอ
สามเณรจึงรำพึงว่า เรานี้จะตายภายใน ๗ วัน ปลานี้หากไม่มีน้ำจะต้องตายในวันนี้แล้ว
อย่ากระนั้นเลยถึงเราจะต้องตายก็ควรจะโปรดสัตว์คือปลาเหล่านี้ให้พ้นจากความตายเถิด
ระหว่างทางท่านได้ปล่อยอีเก้งที่ถูกแร้วนายพรานอีก
ด้วยอานิสงส์ที่ท่านช่วยชีวิตสัตว์เป็นทาน
ด้วยจิตเมตตานี้เองจึงทำให้สามเณรหมดกรรมที่จะต้องหมดอายุขัย แต่กลับมีอายุยืนยาวต่อไปแถมยังมีผิวพรรณผ่องใสยิ่งขึ้นอีกด้วย

หลวงพ่อเคยให้ข้อคิดไว้ในรายการธรรมะเพื่อประชาชนว่า
ชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งหลายเป็นดุจไม้ใกล้ฝั่ง
ชีวิตเราใกล้ความตายเข้าไปทุกขณะ จะกำหนดวัน เวลาและสถานไม่ได้
เหมือนต้นไม้ริมตลิ่ง ที่ถูกกระแสน้ำเซาะให้พังลงไป
ชีวิตของเราก็เช่นเดียวกัน
ย่อมถูกกระแสแห่งความชรา ความเจ็บ ความตายทำให้เสื่อมและดับไปได้ทุกเมื่อ
บุคคลใดไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต หมั่นตักเตือนตัวเองอยู่เสมอ รีบเร่งทำความเพียร สั่งสมบุญอยู่เป็นนิตย์
แม้อันตรายแห่งชีวิตจะเกิดขึ้น ก็ไม่เกรงกลัวต่อมรณภัยนั้นเลย

หลักวิชชาฝ่าภัยโควิด

ในสถานการณ์โควิด ๑๙ ครั้งนี้
มีโอวาทในอดีตของใครคนหนึ่ง ที่ได้แนะหลักวิชชาและวิธีการรักษาใจในช่วงวิกฤตการณ์ต่างๆไว้ว่า
🌟 เราทุกข์ใจกันมาพอแล้ว เกี่ยวกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ และเรื่องปัญหาธุรกิจการงาน ซึ่งทำให้เสียเวลาของชีวิต
💥 อย่าให้หมดเวลาของชีวิต ด้วยการคิดเรื่องที่ทำให้ใจเป็นทุกข์ ต้องปัดชิ้ว..ออกไปจากใจ เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้ใจเป็นทุกข์ ☀ เราจะสุขหรือจะทุกข์ขึ้นอยู่ที่เรา อยากให้ใจเป็นอะไร เราเป็นอะไรก็ขึ้นอยู่กับตัวของเราเอง เราจะทำร้ายตัวเราเองไปทำไม..??
✅ ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม “ จงมองปัญหา อย่าให้เป็นปัญหา”
📌 ดังนั้น..มาทำใจของเราให้เป็นสุขกันดีกว่า

🌟 เป็นเรื่องที่เราจะประมาทไม่ได้ ให้อยู่ในบุญ ให้ทำใจให้ใส ๆ แล้วก็อย่าประมาท ปฏิบัติธรรมตามหลักวิชชาที่เคยได้รับคำแนะนำมาจากพระอาจารย์ และจากที่เคยศึกษากันมา
•• ส่วนเรื่องหยาบ ๆ เราก็อย่าประมาท ให้ทำตามหลักของสาธารณสุขในการป้องกันและดูแลสุขภาพอนามัย เพราะเราไม่ควรตายในตอนนี้
(อย่า) อย่าเพิ่งตายเลย เราจะได้เห็นสิ่งดี ๆ หลังจากผ่านวิกฤตนี้ไปแล้ว
• ให้ใจอยู่ในบุญ เอาใจมาอยู่กับตัว นึกถึงหลวงปู่ไว้กลางกาย นี่เป็นหลักวิชชา ที่สำคัญ
ใครเห็นองค์พระก็นึกองค์พระไป ใครเห็นดวงก็นึกถึงดวงไป ให้นึกด้วยใจที่ใส ๆ กันนะ

โครงการหยุดใจชนะภัยโควิด

🌟 เป็นจังหวะสำคัญที่จะทำให้ชาวโลกรับรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นของขวัญอันประเสริฐสำหรับตัวเราเอง
เป็นจังหวะที่ให้เราเอาใจหลุดจากความทุกข์มาสู่ความสุข หยุดใจเอาชนะโรคภัยไข้เจ็บได้
วันคุ้มครองโลก ก็ต้องคุ้มครองโลกสิ ไม่อย่างนั้นจะตั้งขึ้นมาทำไม!
วันที่ ๒๒ เมษายน ตั้งมานานแล้ว เป็นวันสำคัญนะ ซึ่งเดี๋ยวโลกก็จะถูก “คุ้มครองโดยธรรม (ทบทวนโอวาท)”

เมื่ออยู่ภายใต้ความกดดันของวิกฤตการโควิด ๑๙
สุขภาพใจสำคัญไม่น้อยไปกว่าสุขภาพกาย
ดังคำกล่าว่า “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว”
สุขภาพกายจะดีได้ สุขภาพใจต้องดีด้วย
การประคับประคองรักษาใจของเรา ให้ไม่หวั่นไหวผ่านพ้นวิกฤตการโควิด ๑๙ ครั้งนี้ไปได้ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด

ขอเชิญชวนมารักษาความสงบสุขในใจของเราเอง
มาค้นหาความสุขในตัวเรา…
ด้วยการ “หยุดใจชนะภัยโควิด”
มานั่งสมาธิ ผ่อนคลายความเครียดกันซักครู่
ต่อเนื่อง ๒๐ วัน วันละ ๒๐ นาที
๒ – ๒๒ เมษายน ๒๕๖๓
เนื่องในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี วันคุ้มครองโลก ๒๒ เมษายน กดติดตามและ นั่งสมาธิ ที่ลิงค์นี้ 

ที่มาภาพและเนื้อหา

คิดอย่างไรกับเรื่องนี้