เทนนิส-พาณิภัค 7 วินาทีแห่งชีวิต ที่นำไปสู่ชัยชนะ

แชร์ให้เพื่อนเลย

นักกีฬาลงสนาม สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่แค่เพียงสมรรถภาพทางร่างกาย

แต่ยังรวมไปถึง..คุณภาพของใจด้วย

การแข่งขันเทควันโด ณ โอลิมปิกเกมส์ 2016

เทนนิส-พาณิภัค นักกีฬาความหวังทีมชาติไทย

เจอกับคิม โซ-ฮุย คู่แข่งจากเกาหลีใต้ที่มีดีกรีเหรียญทองเอเชียนเกมส์

ยกสุดท้าย เทนนิส-พาณิภัคทำคะแนนนำอยู่ 4-2

จนเหลืออีกแค่ 7 วินาทีเท่านั้นจะหมดเวลา

ชัยชนะเหมือนอยู่ในกำมือ

แต่พอเธอเสียสมาธิเพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น

คู่แข่งจึงได้ช่องว่าง ดักเตะศีรษะตอนเหลืออีก 5 วินาทีสุดท้าย

ทำแต้มพลิกเป็น 5-4

จากนั้นเธอแทบช็อค ทำอะไรไม่ถูก ไม่สามารถทำแต้มคืนได้

ต้องแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย

เป็น 7 วินาทีแห่งความเจ็บปวด

4 ปีต่อมา

นัดชิงชนะเลิศ โอลิมปิกเกมส์ 2020

เทนนิส-พาณิภัค เจอกับ อาเดรียน่า เซเรโซ่ อิเกลเซียส จากสเปน

เหตุการณ์อันน่าเจ็บปวดเหมือนจะย้อนกลับมาอีกครั้ง

เมื่อถึงยกสุดท้าย อีก 7 วินาทีก่อนจะหมดเวลาการแข่งขัน

เธอมีคะแนนตามคู่แข่ง 9 ต่อ 10

แต่ครั้งนี้เธอมีประสบการณ์ ควบคุมสมาธิได้

รอจังหวะ หาช่องและ เตะไปที่ลำตัวของคู่แข่งได้สำเร็จ

พลิกแซงเป็น 11-10!

และคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ไปได้อย่างสมศักดิ์ศรี

7 วินาทีแห่งชัยชนะ ที่มีการกล่าวขานไปทั่วโลก

เรื่องราวของ 7 วินาทีแห่งความเจ็บปวด และ 7 วินาทีแห่งชัยชนะ

เป็น 7 วินาทีแห่งชีวิต และ 7 วินาทีแห่งสมาธิ

ถึงจะมีความสามารถทางร่างกายดีเพียงใด

แต่หากเสียสมาธิ แม้เพียงเสี้ยววินาที

ก็เป็นตัวชี้วัดถึงผลการแข่งขันได้เลย

แม้เราทุกคนต่างก็มีช่วงเวลาแห่งสมาธิอย่างนี้ด้วยเช่นกัน

เช่น หากเสียสมาธิระหว่างขับรถก็อาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุและความสูญเสียได้

สมาธิจึงมีความสำคัญต่อชีวิตและใกล้ตัวกว่าที่เราคิด

สมาธิคือศาสตร์แห่งการควบคุมใจชั้นสูง

พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า

“สมาธิ คือ สภาวะที่ใจของเรานิ่ง ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว

ศัพท์ธรรมะท่านใช้คำว่า เอ-กัค-คะ-ตา

คือ การที่จิตใจตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว นิ่งต่อเนื่อง

เมื่อใจนิ่งแล้วผลที่ตามมา คือ ใจจะบริสุทธิ์ ผ่องใส

คล้ายกับเวลาที่เราไปตักน้ำในแม่น้ำลำคลอง แล้วเอามาใส่โอ่งใหม่ๆ มันจะขุ่น

แต่พอเราให้น้ำมาอยู่นิ่งๆ ในโอ่ง เดี๋ยวมันจะค่อยๆ ตกตะกอน แล้วน้ำก็จะใส

ใจของคนเราก็เหมือนกัน ปกติจะคิดนั่นคิดนี่

มีเรื่องราวสารพัดอย่างให้คิด ทำให้ใจขุ่นมัวเศร้าหมอง

แต่พอเราทำใจนิ่งๆ ทั้งกิเลส ทั้งอนุสัยหรือกิเลสอย่างละเอียด

จะค่อยๆ นอนก้น ใจก็จะค่อยๆ ใส นั่นคือ สิ่งที่เกิดขึ้นจากการทำสมาธิ”

“สติ มาจาก สัมมาสติ แปลว่า ระลึกชอบ มีความรู้ตัว

สมาธิ มาจาก สัมมาสมาธิ คือ ใจตั้งมั่น สงบ นิ่ง

สติกับสมาธิเป็นกระบวนการต่อเนื่องกันไป ถ้าเราทำอะไรอยู่แล้ว ระลึกรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา เรียกว่า สติ เมื่อมีสติใจก็ตั้งมั่นดิ่งลงไป เวลาทำสมาธิ ถ้ามีทั้งสติและสมาธิแล้ว ใจจะนิ่งได้เร็วมาก แล้วความผ่องใสก็จะบังเกิด”

เราสามารถแทนคำว่า สมาธิ ด้วยคำว่า ใจหยุด ก็ได้ เพราะการทำสมาธิ คือ การหยุดใจให้อยู่ในอารมณ์เดียว “

“พระเดชพระคุณพระมงคล เทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านสรุปสั้นๆ ว่า “หยุด เป็นตัวสำเร็จ” สำเร็จตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงพระนิพพาน”

“ทุกคนบนโลกนี้จะทำทุกอย่างตั้งแต่เรื่องง่ายถึงเรื่องยากให้ประสบความสำเร็จได้ ต้อง “หยุด” จริงๆ แล้วทุกการเคลื่อนไหว เกิดขึ้นจากความต่อเนื่องของการหยุดนั่นเอง

ยกตัวอย่าง ถ้าเราจะเขียนหนังสือ แต่มือของเราสั่น ไม่นิ่ง จะเขียนหนังสือไม่เป็นตัว

เพราะฉะนั้นจะเขียนหนังสือได้มือเราต้องนิ่ง แล้วค่อยๆ เคลื่อนไป ยิ่งนิ่งเท่าไรฝีมือการเขียนเราก็ยิ่งเฉียบขาด

ทุกอย่างที่เราทำ หากเริ่มจากการนิ่ง เราจะเคลื่อนไหวได้อย่างทรงพลัง

ในทุกเรื่องทุกการกระทำต้องมีสมาธิ ยิ่งมีสมาธิมากเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น

หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านสอนว่า หยุดเป็นตัวสำเร็จ ตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงพระนิพพาน คือ จะปฏิบัติธรรม (นั่งสมาธิ) จะทำความดีทุกอย่าง ใจต้องหยุดก่อน พอใจหยุดพลังจะเกิด แล้วจะเกิดผลดีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ

คนทุกคนในโลกต้องฝึกสมาธิ เมื่อฝึกแล้วจะเข้าใจตรงนี้

ที่มาภาพและเนื้อหา

บทความ 7 วินาทีที่เคยเจ็บปวดที่สุด กลายมาเป็น 7 วินาทีที่พลิกชีวิต  วิเคราะห์บอลจริงจัง

บทความศาสตร์แห่งสมาธิ พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ

คิดอย่างไรกับเรื่องนี้